บทความ

"1 เช็คคน" "9 เช็ครถ" ก่อนขับ จะปลอดภัย ห่างไกลโลงศพ ไม่ต้องพบยมบาล | ขับอย่างไรให้ประหยัดปลอดภัย

รูปภาพ
"ขับรถอย่างไรให้ปลอดภัยวันสงกรานต์" 1 เช็คคน 9 เช็ครถ ยมบาลไม่ถามหา หวัดดีวันสงกรานต์หรือวันปีใหม่ของไทยเราแต่เก่าก่อนครับ พูดถึงวันปีใหม่เราทุกคนต่างคิดถึงสิ่งประมาณ 4 สิ่งที่อยากจะทำกันใช่หรือไม่ครับ ลิ้งค์แนะนำ:  โปรดรัดเข็มขัดนิรภัย! 4 สิ่งที่คนไทยอยากทำหรือมักทำช่วงวันสงกรานต์คือ 1 ไม่พลาดเฉลิมฉลอง 2 ต้องลองทำสิ่งใหม่ๆ 3 ไม่ลืมไปเยี่ยมญาติพี่น้อง 4 คล้องแขนกันไปทำบุญตักบาตร แต่อีกสิ่งหนึ่งที่มาคู่กับวันหยุดช่วงสงกรานต์ก็คือ การเกิดอุบัติเหตุทางบนท้องถนนครับ วันนี้ผมอยากจะมีส่วนร่วมช่วยรณรงค์เพื่อลดการเกิดอุบัติจากรถยนต์และรถจักรยานยนต์ด้วยการนำหัวข้อการตรวจรถก่อนการเดินทางเอามาฝากครับ ตรวจรถ 10 ข้อเพื่อการเดินทางปลอดภัย 1 เช็ครอบตัวรถ เดินวนรถแบบเดินตามเข็มนาฬิกาและดูสภาพรถโดยรวมว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ หากพบจุดบกพร่องต่างๆท่านจะได้ทำการซ่อมแซมแก้ไขเพื่อให้รถของท่านอยู่ในสภาพดีเต็มร้อยและพร้อมเดินทางไกลครับ เช็คล้อ ยาง เติมลม ก่อนเดินทางเพื่อความปลอดภัย 2 เช็คล้อและยาง ล้อรถของท่านมีน็อตครบทุกตัวหรือไม่ น็อตหลวมหรือเปล่า ดอ

เคล็ดลับความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงความสูญเสียก่อนสตาร์ทรถยนต์(Car Engine Starting)

"ก่อนติดเครื่องยนต์" "ก่อนสตาร์ทรถยนต์" "ก่อน start รถยนต์" ท่านควรทำอย่างไร? สิ่งที่ผมนำมาฝากกันในวันนี้คือ สิ่งที่ต้องทำก่อนที่เราจะขึ้นรถเพื่อติดเครื่องและขับขี่ ผมมีโอกาสได้เข้าไปเป็นผู้สังเกตุการขับขี่อย่างประหยัด ถูกวิธีและปลอดภัยจากหน่วยงานที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งครับ อาจารย์ไม่เพียงแค่บรรยายเพียงเท่านั้นแต่ได้นำทุกคนลงสนามทดสอบเพื่อลงมือปฏิบัติกันจริงๆด้วย หัวข้อหนึ่งที่อาจารย์สอนก็คือ ท่านถามว่า "ก่อนขึ้นรถยนต์ต้องทำอะไรก่อนบ้าง" ทุกคนที่เข้าอบรมต่างตอบกันไปต่างๆนาๆ ตอบถูกบ้างผิดบ้าง คำเฉลยของอาจารย์คือ "ต้องเดินรอบรถเพื่อตรวจสภาพของรถและสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวรถด้วย" พวกเราถามอาจารย์ออกไปว่า "ทำไมครับ" "ทำไม่ถึงต้องเดินรอบรถก่อนหนึ่งรอบแล้วถึงจะขึ้นรถได้" "อ๋อ" มันมีเหตุผลหลักๆอยู่ด้วยกัน 2 ข้อด้วยกันคือ.." อาจารย์พูดขึ้น "1. ก็เพื่อที่เราจะได้ดูว่ามันมีอะไรที่เกะกะหรือกีดขวางทางรถที่เราจะขับหรือถอยหลังออกไปหรือเปล่า เช่น - มีคนเอาขวดมาโยนทิ้งไว้ด้านหลังรถที่เราจอ

พบกับการกำจัดคราบขี้เกลือบริเวณขั้วแบตเตอร์รี่อย่างถูกวิธีซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานลดการผุกร่อน

รูปภาพ
"วิธีขจัดขี้เกลือบนขั้วแบตเตอร์รี่รถยนต์(Corrosion)" ท่านทราบหรือไม่ว่าทำไมขี้เกลือจึงเกิดขึ้นที่ขั้วแบตเตอรี่ เราจะแก้ไขอย่างไร ถ้าปล่อยทิ้งไว้มีผลเสียอย่างไร Image from www.wikihow.com อาการเกิดขี้เกลือมีสาเหตุเกิดจากความต้านทานของกระแสไฟฟ้าที่เกิดบริเวณที่มีคราบขี้เกลือเกิดขึ้นนั่นแหล่ะครับ บริเวณไหนที่มีความต้านทานบริเวณนั้นก็จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมีและส่งผลให้มีคราบเกิดขึ้นดังกล่าว ส่วนมากจะเกิดบริเวณขั้วของหม้อแบตเตอร์รีซึ่งเป็นที่ยึดของสายไฟครับ ผลกระทบของคราบขี้เกลือดังกล่าวจะทำให้กระแสไฟจากหม้อแบตเตอร์รีเดินได้ไม่สะดวก กระแสไฟไม่สามารถเดินทางไปเลี้ยงส่วนต่างๆได้สะดวก ฉะนั้นเราต้องกำจัดคราบดังกล่าวออก เราไม่สามารถป้องกันการเกิดได้ แต่สามารถที่จะแก้ไขและบรรเทาอาการดังกล่าวได้โดยมีวีธีดังต่อไปนี้ครับ 1. นำสายไฟออกจากขั้วแบตเตอร์รี่ 2. ราดน้ำร้อนลงบริเวณคราบขี้เกลือ 3. ใช้แปลงขัดคราบออกจนหมด 4. สวมสายไฟเข้ากับขั้วแบตเตอร์รี่และขันยึดให้แน่น 5. ทาด้วยจารบีบริเวณที่เกิดคราบขี้เกลือ ขั้นตอนการทาจารบีต้องเป็นขั้นตอนหลังจากรัดสายไฟที่ขั้วแบตเตอร์รี่เสมอ

ขั้นตอนการ"ปิดแอร์รถยนต์"ที่ถูกวิธีเพื่อป้องกันความผุกร่อนตัวคอยล์ความเย็น(Coil)และป้องกันความอับชื้น | "ขับขี่อย่างไรให้ประหยัดน้ำมันและปลอดภัย"

รูปภาพ
วิธีเปิด-ปิดแอร์รถยนต์เพื่อยืดอายุการใช้งาน ขับรถเป็นป่าววว?   ขับน่ะขับเป็น แต่ไม่แน่ใจว่ามันถูกต้องหรือเปล่า! แอร์รถยนต์ เปิด-ปิดตอนไหน อย่างไรให้อายุการใช้งานยืนยาว? ตอนก่อนหน้านี้ผมได้เขียนถึงการ " ดูขั้นตอนการเปิดแอร์รถยนต์ที่ถูกวิธีเพื่อป้องกันความเสียหายของคอยล์(Coil)และช่วยยืดอายุแอร์ " ไปแล้ว คราวนี้เรามาดูการปิดแอร์ที่ถูกต้องกันครับ ซึ่งจะช่วยให้ยืดอายุการใช้งานแอร์รถยนต์และความเย็นคงทนยาวนานไปจนลืมกันเลยครับ ข้อมูลที่ผมนำมาฝากกันวันนี้ผมได้มาจากการอบรมจากหน่วยงานที่รับอบรมการขับขี่อย่างประหยัดและปลอดภัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งครับ ขั้นตอนการปฏิบัติการปิดแอร์รถยนต์ 1. ปิดสวิตช์ควบคุมคอมเพรสเซอร์แอร์ ปุ่ม A/C (Air Conditioning) ก่อนที่ท่านจะถึงจุดหมายปลายทางหรือก่อนดับเครื่องยนต์ประมาณ 2-3 นาทีหรือ 1-2 กิโลเมตร 2. ปรับเร่งปุ่มความแรงของพัดลมไปที่ระดับสูงสุดเพื่อขับความเปียกชื้น หยดน้ำที่เกาะอยู่กับคอยล์เย็น(Coil) ขั้นตอนนี้สำคัญมาก เพราะจะช่วยไล่ความอับชื้น ป้องกันการเกิดกลิ่นเหม็นอับและยังช่วยยืดอายุการใช้งานตัวคอยล์ไม่ให้ผุกร่อนสึกหรอเร็วกว่

ดูขั้นตอนการเปิดแอร์รถยนต์ที่ถูกวิธีเพื่อป้องกันความเสียหายของคอยล์(Coil)และช่วยยืดอายุแอร์

รูปภาพ
เราๆท่านๆอาจจะต้องเสียเงินโดยใช่เหตุกับการรู้เท่าไม่ถึงการณ์กับการเปิด-ปิดแอร์รถยนต์ ผมโชคดีได้รับการอบรมจากหน่วยงานอบรมการขับขี่อย่างประหยัดและปลอดภัยโดยมีการลงมือปฎิบัติกันจริงๆในการอบรมด้วย วันนี้ผมจะพาท่านมาพบกับการเปิดแอร์รถยนต์ที่ถูกต้องกันครับ ขั้นตอนการเปิดแอร์รถยนต์ที่ถูกต้อง 1. ทุกครั้งก่อนที่จะสตาร์ทเครื่องยนต์ ควรตรวจดูสวิตช์ควบคุมคอมเพรสเซอร์ (ปุ่ม A/C) ว่าอยู่ใน ลักษณะใด เปิดหรือปิด ถ้าหากเปิดอยู่ให้กดปิดเสียก่อนที่จะสตาร์ทเครื่องยนต์ เพื่อไม่ให้ คอมเพรสเซอร์ต้านทานการหมุนของเครื่องยนต์ในขณะสตาร์ท 2. เมื่อเครื่องยนต์ติดเรียบร้อยแล้ว ให้เปิดสวิตช์พัดลมของเครื่องปรับอากาศก่อน โดยปรับไปที่ตำแหน่ง ความเร็วสูงสุด ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที เพื่อไล่ลมร้อนจากช่องปรับอากาศ

ผู้ขับขี่ต้องเปิดสัญญาณไฟในระยะกี่เมตรเมื่อต้องการเลี้ยวรถ - 60 เมตรเป็นอย่างน้อย

ท่านทราบหรือไม่ว่าเมื่อผู้ขับขี่ต้องการเลี้ยวรถ ท่านจะต้องให้สัญญาณไฟเลี้ยว คำถามก็คือ "จะต้องเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวในระยะกี่เมตร ?" เฉลยคือผู้ขับขี่ต้องเปิดสัญญาณไฟในระยะ "ไม่น้อยกว่าหกสิบเมตร(60 เมตร)" จากข้อมูล คำเฉลยข้อสอบทำใบขับขี่ปี 2558  มีโจทย์พร้อมคำเฉลย ดังนี้ คำถาม: ในการให้สัญญาณไฟเลี้ยว จะต้องให้ผู้ขับรถคันอื่นเห็นได้ในระยะเท่าไร คำตอบ: ก. ไม่น้อยกว่า 10 เมตร ข. ไม่น้อยกว่า 15 เมตร ค. ไม่น้อยกว่า 60 เมตร ง. ไม่น้อยกว่า 30 เมตร ผมไม่แน่ใจว่าโจทย์และคำเฉลยนี้ยังอยู่ในข้อสอบของปัจจุบันด้วยหรือไม่ ถ้ายังอยู่ก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการจะไปสอบใบขับขี่ครับ นอกจากจะได้ความรู้และข้อควรปฎิบัติในการใช้รถบนถนนหนทางให้ถูกต้องตามกฎหมายและมีความปลอดภัยแล้วแถมยังได้ทราบคำเฉลยเพื่อนำไปเก็บคะแนนได้อีกหนึ่งข้อตุนไว้ในกระเป๋าแบบสบายๆอีกด้วยครับ ปัจจุบันมีผู้ขับขี่ที่ต้องการเลี้ยวรถ เปลี่ยนช่องทางเดินรถ แทรกหรือปาดหน้ารถคันอื่นโดยไม่เปิดสัญญาไฟเลยก็มีให้เห็นอยู่เต็มถนนเมืองไทย สำหรับผู้ปฎิบัติตามกฎ เปิดไฟให้สัญญาณเมื่อต้องการเล

เวลาใดที่ควรเปิดไฟส่องสว่างรถยนต์ขณะขับขี่เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

"เปิดไฟหน้ารถ ช่วยลดอุบัติเหตุ" ผม ไมเคิล เล้ง นำเกร็ดเล็กๆน้อยๆมา share ให้กับเพื่อนคนใช้รถ คนใช้ถนน ผมเน้นลดอุบัติ ผมมุ่งงดความสูญเสีย ผมไม่เสพแล้วขับ ผมไม่จับพวงมาลัยขณะมึนเมา ผมอยากเห็นความสุข ผมต้องการพร้อมหน้าพร้อมตา ผมต้องการมากันครบ ผมต้องการเดินทางจบด้วยสวัสดิภาพ เพราะผมรู้อยู่แล้วว่า ศพมันไม่สวยเลยตอนอยู่ในรถที่มันเละ ก็เหล็กกล้าของตัวรถยังต้องถึงกับต้องโล๊ะ แล้วร่างของท่านมันจะอยู่ครบได้ยังงาย ย ย ย ย  ท่านทราบหรือไม่ว่าเราควรเปิดไฟรถเวลาไหนดีที่สุดครับ จากสถิติอุบัติเหตุทางรถยนต์จะเกิดขึ้นสูงสุดคือช่วงเวลา 16.00-20.00 น. ก็คือช่วงเวลาโพล้เพล้ ยามที่พระอาทิตย์ตกดินนั่นแหล่ะครับ กอปรกับเป็นช่วงเวลาเลิกงานของคนทำงานตามหน่วยงาน บริษัท ห้างร้านต่างๆ ซึ่งผู้คนก็จะรถการเป็นจำนวนมากเพื่อเดินทางกลับบ้าน การจราจรก็จะหนาแน่นคับคั่งมาก รถก็เยอะ คนก็แยะ แออัดกันเต็มท้องถนนไปหมด สิ่งเหล้านี้ล้วนเป็นปัจจัยเอื้อต่อการเกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น ฉะนั้นคำตอบก็คือ เริ่มเปิดไฟรถของท่านขณะขับขี่เวลาประมาณ 16.00 เป็นต้นไป แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกที่ท่านจะต้องเปิดไฟรถของท่านก่